Just another WordPress.com weblog

Archive for the ‘เที่ยวอีสาน’ Category

Photoscape แต่งภาพง่ายๆ

การท่องเที่ยวในแต่ละครั้งนั้นเราสร้างความประทับใจมากมายและวิธีหนึ่งคือการถ่ายภาพเก็บเอาไว้ วันนี้ครอบครัวของเราก็มีการใช้โปรแกรม PhotoScape มาตกแต่ง จัดเรียง จัดภาพให้สวยงามได้ เป็นโปรแกรมที่ง่ายสะดวกเป็นภาษาไทยครับ

ภาพที่เอามาใช้ชมเป็นการรวมภาพโดยเอาภาพของเชียงใหม่มาโชว์ครับ

บางแสนเล่นสงกรานต์สาดน้ำ:Thai skimboard

วันนี้ได้ชมข่าวที่มีการเล่นน้ำเลยเอามาฝาก ว่าการเล่นน้ำนั้นมันส์จริงๆ มีการแข่งขัน Thai skimboard กันอย่างสนุกสนาน

**

ที่บางแสนก็มีคลื่นไม่แรงแต่สามารถสร้างความสนุกได้

Seventh heaven World Film Festival of Bangkok now showing!

World Film Festival Thai flick “Mundane History” opens the World Film Festival, which runs from November 6-15.
The 7th World Film Festival of Bangkok, dubbed “Film Lover’s Heaven,” opens Friday at Paragon Cineplex. Right about now you might be asking: “Didn’t we just have an international film festival back in September?”

True, but this one’s different. Featuring over 100 non-mainstream movies lumped into nine different categories like “Asian Contemporary,” “Doc Feast,” and “Guts Nouveau,” the World Film Festival features an awesome selection of some of the year’s best indie films and thought-provoking documentaries from around the globe.

That’s a big line-up of films for a festival that only runs from November 6 to 15, so The Nation has published a list of 10 films the festival programmer doesn’t want to miss. Film blogger Wise Kwai also has a great summary of the festival highlights on his site.

But there really is something for everybody, from a documentary on the “Roots of Reggae” to Portuguese drama “To Die Like a Man,” about a veteran transsexual star in Lisbon’s drag shows.

The film festival site allows viewers to search according to section or date and offers full details on every single film being shown. Or, click here to download the full sked.

Thai film “Jao Nok Krajok” (Mundane History), coming off a successful run through several world film festivals, will open the World Film Festival of Bangkok Friday night.

Read more: 7th World Film Festival of Bangkok | CNNGo.com http://www.cnngo.com/bangkok/play/7th-world-film-festival-bangkok-now-showing-053009#ixzz0pmQUQgvQ

Celebrating Thailand’s stinkiest fruit: The durian

The World Durian Festival kicks off in Chanthaburi this weekend, and one Bangkok hotel has devoted a whole month to the smelly fruit

Read more: World Durian Festival | CNNGo.com http://www.cnngo.com/bangkok/play/celebrating-thailands-stinkiest-fruit-durian-385877#ixzz0pmOt07e5

Thailand’s stinkest event of the year begins this Saturday: the World Durian Festival. The nine-day celebration of this popular Thai fruit will take place in Chanthaburi, about 245 kilometers east of Bangkok, from May 1-9.

It’s no secret durian is an acquired taste. Though the durian is arguably the world’s smelliest fruit, loathed by many, its fans claim that if you can get past its strong odor, a creamy, delectable party on the taste buds awaits.

In spite of the name, there’s more to the World Durian Festival than just durian. The region is famous for its fruit so expect plenty of tasty fruits for sale as well as local OTOP products, fruit decoration displays, a processed product contest and a jewelry and accessories fair.

แห่ชมภาพ3มิติยักษ์ “บึงสีไฟ”

จังหวัดพิจิตรสร้างความฮือฮา เนรมิตพื้น ที่ “บึงสีไฟ” ให้มีภาพ 3 มิติ มหัศจรรย์ขนาดยักษ์ 2 ภาพ คือภาพน้ำตกกับภาพชาละวัน ถ้ามองจากมุมสูงลงมาดูเป็น 3 มิติ ถ้าลงไปยืนบนน้ำตกหรือในปากชาละวัน พอถ่ายจากหอดูนกที่ทำมุมลงมา 45 องศา จะดูเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง ผวจ.เผยนักท่องเที่ยวรู้ข่าวแห่มาถ่ายรูปด้วยเป็นที่ระลึกอย่างคับคั่ง ทางด้านอาจารย์สถาปัตย์ ม.นเรศวร คนเสนอไอเดียและวาดเองเผยเห็นตัวอย่างจากเมืองนอก เลยเสนอให้ทำแทนปั้นรูปจระเข้ที่ซ้ำซาก ถือเป็นภาพ 3 มิติขนาดยักษ์ภาพแรกของไทย3 มิติ ที่ต้องมองจากมุมสูง ทำมุม 45 องศา โดยเฉพาะในช่วงเวลา 10.00-11.00 น. แสงอาทิตย์จะทำมุมกับภาพ ดูเหมือนเล่นอยู่ในน้ำตกจริงๆ ซึ่งถือว่าเป็นภาพมหัศจรรย์แห่งแรกของประเทศไทย ขณะนี้เสร็จแล้วทั้ง 2 รูป ส่วนภาพที่ 2 เป็นรูปตำนานชาละวัน ซึ่งถ้าลงไปนั่งในภาพแล้วถ่ายรูปออกมา จะเหมือนกับนั่งอยู่ในปากพญาชาละวัน มีหญิงสาวจำนวนมากลงทุนลงไปนอนราบกับพื้นเพื่อถ่ายภาพ โดยสมมติตัวเองว่าเป็น “ตะเภาทอง” ให้ชาละวันคาบเข้าถ้ำทอง โดยเชื่อกันว่าใครที่ถ่ายภาพที่จุดดังกล่าวจะได้พบรักกับหนุ่มพิจิตรอีกด้วย
pijit
นายสมชัยกล่าวต่อว่า แนวคิดนี้มาจากอาจารย์ของมหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก นำเสนอภาพ 3 มิติจากต่างประเทศให้ดู ซึ่งตนเห็นว่าน่าสนใจ จากนั้นตนก็มีแนวคิดในเรื่องของวรรณคดี จึงได้คัดเลือกภาพตำนานชาละวัน แล้วหาพื้นที่โดยเลือกเอาพื้นที่หอดูนกหลังบึงสีไฟ ซึ่งเป็นพื้นที่รกร้างมาวาดภาพ 3 มิติ

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. นายสมชัย หทยะตันติ ผวจ.พิจิตร เปิดเผยถึงภาพวาด 3 มิติ บริเวณหอดูนกในบึงสีไฟว่า มีการวาดเป็นภาพน้ำตก

“ความแปลกของภาพคือเป็นสีธรรมดาทาที่พื้น แต่เมื่อมองจากมุมสูงแล้ว จะเห็นเป็นภาพ 3 มิติ ยิ่งเป็นภาพถ่ายจะเห็นความลึกความชัด ราวกับว่าอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ ถึงเล่นน้ำไม่เป็นก็ไม่จมน้ำ หรืออย่างถ้ำชาละวันถ้าเราเข้าไปก็เหมือนอยู่ในปากถ้ำชาละวันจริงๆ นี่คือลักษณะเด่นของภาพ ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากแวะมาชมและถ่ายรูปกันอย่างคับคั่งแล้ว ถือว่าการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่บึงสีไฟเริ่มสัม ฤทธิผลแล้ว หากใครอยากจะไปพิสูจน์ความมหัศจรรย์ของภาพ 3 มิติอย่าลืมนำกล้องถ่ายรูปไปบันทึกภาพได้ดังกล่าว” ผวจ.พิจิตรกล่าว

ด้านนายนรเศรษฐ์ ไวศยกุล อาจารย์ภาควิชาศิลปะและการออกแบบ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งเป็นคนออก แบบและวาดภาพดังกล่าวร่วมกับนักศึกษา เปิดเผยว่า ทางคณะทำงานร่วมกับ ผวจ.พิจิตร ซึ่งประสงค์จะปรับปรุงภูมิทัศน์ของบึงสีไฟ เดิมมีความคิดว่าจังหวัดพิจิตรมีเงินอยู่จำนวนหนึ่ง อยากปั้นรูปจระเข้ตามที่ต่างๆ แต่รูปปั้นจระเข้ อาจทำให้ดูซ้ำๆ จึงนำเสนอไปว่าถ้าเป็นงานศิลปะจะเป็นอย่างไร จากนั้นได้ศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับศิลปะตามท้องถนนในต่างประเทศ ซึ่งมีการประดับตกแต่ง หรือการเล่นกับพื้นที่ หลังประชุมกันหลายครั้งจึงตกลงสรุปจะวาดภาพ 3 มิติบนถนนในบึงสีไฟ ขณะที่เดินเข้าไปเหมือนกับลอยอยู่ เวลาวาดต้องมีการคำนวณอย่างดี

นายนรเศรษฐ์กล่าวว่า ใช้เวลาวาดภาพเหล่านี้ 1 เดือนเศษ โดยจังหวัดกำหนดให้เพียง 25 วัน เพราะจะใช้เปิดในงานวันแข่งเรือ แต่จริงๆ แล้วเป็นไปไม่ได้ โดยตนมีลูกมือมาช่วยทำงานเป็นลูกศิษย์ 5 คน เวลาวาดจริงคนที่วาดจะมองภาพไม่ออก หากวาดตามความรู้สึกจะเป็นมุมลง ต้องให้มองจากมุมอื่นไกลจากภาพ จึงต้องมีการคุมในการวาดทุกขั้นตอน ทุกครั้งจะต้องมีการร่างแบบ และขึ้นไปมองมุมสูงและมุมไกลจนมองเป็นภาพ 3 มิติ จากนั้นเริ่มลงสี เราใช้วิธีคิดแบบเดียวกับการสร้างฉากภาพยนตร์ จะถ่ายให้สมจริงต้องวาดรูปให้ฉากหลังมันหลอก

“ภาพลักษณะนี้ในประเทศไทยยังไม่พบว่ามีที่ไหนที่ใหญ่ขนาดนี้ ใช้เงินเท่ากับปั้นจระเข้ แต่ได้สิ่งที่แปลกใหม่ขึ้นมา ค่าใช้จ่ายในการวาดคิดเป็นตารางเมตรละ 1,000 บาท ทั้งหมดประมาณ 310 ตารางเมตร แต่จริงๆ วาดไปประมาณ 400 ตารางเมตร ซึ่งทางจังหวัดสนับสนุนเงินมา 310,000 บาท” นายนรเศรษฐ์กล่าว

นายนรเศรษฐ์กล่าวต่อว่า ระหว่างทำงานมีปัญหาพอสมควร เพราะวาดช่วงหน้าฝน ต้องมีเต็นท์กันฝน กลางวันแดดร้อนมาก บางครั้งมีผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้นไม่เข้าใจ เดินมาที่จุดวาดทำให้มีรอยเท้า เพราะบริเวณรอบๆ กำลังมีการปรับภูมิทัศน์ จึงต้องทำความสะอาดเช็ด และมาลงสีวาดแก้ไข ทำให้งานล่าช้าไปอีก ทางผู้ว่าฯ ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยดูแลในช่วงทำงานตลอดทั้งวันและคืน หลังผลงานออกมาได้รับการตอบรับดีมาก โดยภาพน้ำตกมีเนื้อที่กว่า 300 ตารางเมตร ส่วนถ้ำชาละวันประมาณ 100 ตารางเมตร

ข้อมูลจาก
ข่าวสด

ภาพกุเก่ามาเล่าเรื่องราว

วันนี้มาเล่าเรื่องไปทะเลที่เราและครอบครัวไปเที่ยวมาต่อจากตอนที่แล้ว และไม่รู้จะบอกยังงัยว่าทะเลสวย อารมณ์ดีมีเสน่ห์จริงๆ

kft01

 

 

  kft03kft02

 

kft04 kft05

Bangsan or bangsean

bangban or bangsean เป็นคำที่มีความหมายเหมือนกับใน Blog นี้ เพราะมีคนใช้คำที่ 2 แล้วเลยตั้งชื่อให้คล้ายกันเฉยๆ บล๊อกนี้เกิดจากการที่ครอบครัวเดินทางไปเที่ยวระยอง หาดแม่ลำพึง พัทยาเหนือ พัทยากลาง พัทยาใต้และกลับมาซื้อข้าวหลามที่ตลาดหนองมล ลงเล่นทะเลที่บางแสน เกิดความประทับใจบางแสนชลบุรีขึ้นมา เพราะต่างจากเดิมมากมาย เมื่อก่อนไม่ค่อยหน้าท่องเที่ยวนักแต่ปัจจุบันโอ้แม่เจ้ามีทั้งที่ปั่นจักรยาน อาหารทะเลสดราคาก็ประหยัด ลงเล่นทะเลมีคลื่นไม่มากและไม่ค่อยลึกที่สำคัญมีการดูแลระบบความปลอดภัยสูงมาก

lekmay1 ภาพเล่นทะเลของน้องมังกร น้องเมย์ น้องมีน พี่ฟ้าใสกับอาเล้ก

ทะเลวันนี้เงียบคลื่นไม่แรงไม่แสบผิวทำให้เด็กๆสนุกมากๆๆ

 

 

 

 

น้องมีนกำลังเล่นทะเลคร๊าบๆ

น้องมีน

 น้องมีนชอบมากกับทัเลบางแสนเวลามีคนมาหาที่ชลบุรีจะชวนญาติๆเพื่อนมาเล่นทะเลแบบเช้า เย็นก็ว่าได้ ผิวแทนซะไม่มี

 

 

 

 

 

bigsack

 

 

 

 

 

 

ช่วงหน้าเราจะไปที่ชลบุรีอีกครั้งแล้วจะเอาน้ำทะเลมาฝากครับ

ปราสาทเขาพนมรุ้ง บุรีรัมย์

ประวัติความเดิมปราสาทเขาพนมรุ้ง

อุทยานประวัติศาสตร์เขาพนมรุ้ง” ตั้งอยู่ ู่ในพื้นที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ์กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นเป็นโบราณสถาน สำหรับชาติในพระราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ี่ 52 ตอนที่ 75 ลงวันที่ 8 มีนาคม 2578 ปัจจุบันอดีตกาลพนมรุ้งเป็นภูเขาไฟซึ่งผ่าน การระเบิดมอุทยานประวัติศาสตร์เขาพนมรุ้ง” ตั้งอยู่ ู่ในพื้นที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ์กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นเป็นโบราณสถาน สำหรับชาติในพระราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ี่ 52 ตอนที่ 75 ลงวันที่ 8 มีนาคม 2578 ปัจจุบันอดีตกาลพนมรุ้งเป็นภูเขาไฟซึ่งผ่าน การระเบิดมาแล้วและธรรมชาติก็ได้เปลี่ยน แปลงปล่อง ภูเขาไฟ ให้เป็นแหล่งน้ำซึ่งมี ีปริมาณ น้ำมากเพียงพอต่อการบริโภคและ อุปโภคได้ตลอดปีสำหรับคนโดยทั่วไปและ สำหรับคนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งที่ขึ้นไปทำสิ่ง ก่อสร้างอันยิ่งใหญ่บนนั้น าแล้วและธรรมชาติก็ได้เปลี่ยน แปลงปล่อง ภูเขาไฟ ให้เป็นแหล่งน้ำซึ่งมี ีปริมาณ น้ำมากเพียงพอต่อการบริโภคและ อุปโภคได้ตลอดปีสำหรับคนโดยทั่วไปและ สำหรับคนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งที่ขึ้นไปทำสิ่ง ก่อสร้างอันยิ่งใหญ่บนนั้น panomrung   

“ปราสาทหินเขาพนมรุ้ง”เป็นศาสนสถาน
ทางศาสนาพราหมณ์ ลัทธิศิวะนิกาย คือการ
ยกเอาพระศิวะเป็นมหาเทพสิ่งก่อสร้างส่วน
ใหญ่สร้างเมื่อพุทธศตวรรษที่ 16-18ร่วมสมัย      นารายณ์บรรทมสินธุ์ชมเนื้อหาภาพจำหลัก คลิก
กับปราสาทนครวัดซึ่งสร้างโดยพระเจ้าสุริยวร
มันที่ 2 มหาราชองค์หนึ่งของ กัมพูชาเมื่อ
พุทธศตวรรษที่ 17 นั้นเป็นศาสนสถานทาง
ศาสนาพราหมณ์ลัทธิวิษณุนิกายคือการยก
เอาพระนารายณ์โดยเหตุที่พระศิวะมีถิ่น
ฐานที่สถิตย์ประทับอยู่บนภูเขาพระสุเมร
ุ ฉะนั้นการที่บรรพชนในอดีตจะทำสิ่งก่อ
สร้างอันยิ่งใหญ่ถวายเป็นที่ประทับของ
พระศิวะมหาเทพ
จะต้องหาทำเลหรือชัยภูมิ
เพื่อจะสมมติว่าคือเขาพระสุเมรุจึงเลือกเอา
พนมรุ้งสร้างสิ่งก่อสร้างด้วยหินทรายสีชมพู
บนขอบปล่องภูเขาไฟด้านทิศใต้อันเป็นหน
ทางอันใกล้สวรรค์มากยิ่งกว่าพื้นราบและหัน
หน้าไปทางทิศตะวันออกเพื่อ รับแสงแห่ง
ดวงอาทิตย์
ซึ่งเป็นการเริ่มต้นอันเป็นสิร
ิมงคลและพลังอันยิ่งใหญ่ร้อนแรง

กระเจียวบานที่ชัยภูมิ

kajeaw02 kajeawดอกกระเจียวบานสวยงามในทุ่งหิน ถิ่นเทพสถิต ชัยภูมิ

kajeaw01 ชมทะเลหมอก อากาศสดชื่นเหมือนกลุ่มควันวิ่งชนใบหน้า ชมได้ในช่วงตีห้าถึงหกโมงเช้า

สามารถชมเพิ่มเติมได้ที่ http://www.chaiyaphum.go.th/tourchai/hilight.htm

เทศกาลดอกกระเจียวบาน ที่ชัยภูมิ

ชัยภูมิเป็นดินแดนแห่งทุ่งดอกกระเจียว และสายน้ำตกชุ่มฉ่ำยามหน้าฝน มีเทือกเขาที่สำคัญได้แก่ ภูพังเหย ภูแลนคา ภูพญาฝ่อ อันเป็นต้นกำเนิดแม่น้ำชี แบ่งการปกครองเป็น 15 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ คือ อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอบ้านเขว้า อำเภอคอนสวรรค์ อำเภอเกษตรสมบูรณ์ อำเภอหนองบัวแดง อำเภอจัตุรัส อำเภอภูเขียว อำเภอบำเหน็จณรงค์ อำเภอบ้านแท่น อำเภอแก้งคร้อ อำเภอคอนสาร อำเภอเทพสถิต อำเภอหนองบัวระเหว อำเภอภักดีชุมพล อำเภอเนินสง่า และกิ่งอำเภอซับใหญ่
วันนี้ขอพาเที่ยวชมดอกกระเจียวที่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ต้องบอกว่าดอกกระเจียวบานปีละ 1 ครั้ง ระหว่างเดือน พฤษภาคม-กรกฎาคม ของทุกปี เสน่ห์จะอยู่ที่ดอกสีชบา ชมภูอ่อน-เข้ม เด่นสง่าสู่ลมฝนและขึ้นในที่มีหินแข็งที่สวยงามจะอยู่ที่เป็นพื้นที่กว้างใหญ่ดอกบานพร้อมกันเต็มทุ่ง